เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เผยการกลับมาพร้อม 3 ปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยแนวคิด Heritage Alive
21 ก.ย. 2020
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ยกระดับเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ สู่ความเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ของทั้งคนไทยและพร้อมรับการท่องเที่ยวระดับโลก เผยสามปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ที่จะมาปลุกความมีชีวิตชีวาริมน้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา ที่สร้างจากต้นแบบเรือใบสามเสาลำสุดท้ายในราชการกองทัพเรือ เรือแห่งประวัติศาสตร์ที่นำพาความรุ่งเรืองจากโพ้นน้ำตะวันตกมาสู่ผืนดินสยาม ซึ่งจะเทียบท่าถาวร ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อให้คนไทยและชาวโลกได้ร่วมหวนรำลึกถึงเสน่ห์ของเรือแห่งตำนาน “Living Museum & Art Festival” พิพิธภัณฑ์มีชีวิตผ่านเส้นทาง The Memory Lanes ย้อนรอยผ่านกาลเวลาเพื่อร่วมสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตในอดีต และการจัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบกระจายตามโซนต่าง ๆ และ “New Mega Riverside F&B Destination” สร้างสรรค์สวรรค์แห่งอาหารการกินนานาชาติแห่งใหม่ริมเจ้าพระยา ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ครบทุกรสชาติ ทุกสไตล์ จากภัตตาคารและร้านอาหารเด่นดังทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเตรียมเผยโฉมให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์แห่งความตื่นตาตื่นใจครั้งใหม่ในการเฉลิมฉลองเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 นี้
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ด้วยความมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนเพื่อการเติบโตร่วมอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้ปรัชญา “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในเรื่องการกินดื่ม ช้อปปิ้ง การท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ เราจึงเดินหน้ายกระดับเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในหลากหลายมิติของลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยองค์ประกอบและบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า ภายใต้ด้วยแนวคิด “Heritage Alive” ต่อยอดการอนุรักษ์หลักฐานอิงประวัติศาสตร์ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยสะท้อนเรื่องราวของพื้นที่ที่ตั้งของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เนื่องจากเป็นย่านเก่าแก่บนถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของกรุงเทพฯ เป็นเสมือนชีพจรทางเศรษฐกิจที่เป็นแหล่งรวมวิถีดำเนินธุรกิจและวิถีชีวิตแบบผสมผสานโลกตะวันออกกับตะวันตกที่เชื่อมโยงอดีตตั้งแต่ในช่วงรัชกาลที่ 5 สืบสานมาจนถึงปัจจุบัน
โดยมีสามองค์ประกอบสำคัญที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ คือ “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา “Living Museum & Art Festival”สร้างประสบการณ์ใหม่ในการสัมผัสและเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ใช้วิธีการนำเสนอด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัย และดื่มด่ำกับผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบที่จัดแสดงตามโซนต่างๆ ทั่วพื้นที่ของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และ “New Mega Riverside F&B Destination” จากเดิมที่เป็นแหล่งรวมภัตตาคารและร้านอาหารที่หลากหลายกว่า 40 ร้านอยู่แล้ว เราจะเสริมทัพด้วยการร่วมมือกับ “ครัวคุณต๋อย” ที่จะมาสร้างสรรค์พื้นที่ศูนย์กลางอาหารอร่อยแห่งใหม่ เพื่อให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของการกินดื่มที่ครบรส ตอบโจทย์ทุกสไตล์และความชอบของนักชิมยิ่งขึ้น
ปรากฏการณ์แรก เรือสิริมหรรณพ แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นจากต้นแบบเรือใบสามเสาในยุคเริ่มต้นการปฏิสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสยามกับโลกตะวันตกในช่วงรัชกาลที่ 5 เป็นเรือแห่งประวัติศาสตร์ที่นำพาความรุ่งเรืองจากโพ้นน้ำตะวันตกมาสู่ผืนดินสยาม เรือใบสามเสานี้เป็นเรือนำขบวนเสด็จประพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป และนำความเจริญรุ่งเรืองกลับมาสู่ผืนดินไทย โดนจะเทียบท่าถาวร ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อให้ชาวไทยและชาวโลกได้สัมผัสกับลักษณะของเรือแห่งตำนาน นอกจากนี้เรือสิริมหรรณพยังออกแบบขึ้นเพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ ทั้งการกินดื่มและพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยห้องอาหาร และบาร์ระดับพรีเมี่ยมที่ให้บริการอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะภายใต้การบริหารของโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โดยรวบรวมประสบการณ์ที่เป็นศูนย์รวมของคนที่มีความชื่นชอบและความสนใจในเรื่องเดียวกันมาไว้ด้วยกัน
ปรากฏการณ์ที่สอง Living Museum & Art Festival พิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่มอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการสัมผัสและเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟเพื่อสร้างภาพเสมือนจริงแบบ Augmented Reality ในการนำเสนอผ่านเส้นทาง The Memory Lanes ที่มีแหล่งดึงดูดใจสำคัญๆ ทั้ง 36 จุด ที่ให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลินกับเส้นทางแห่งความทรงจำ ด้วยองค์ประกอบที่สร้างบรรยากาศที่สะท้อนประวัติศาสตร์ทั้งในด้านศิลปะวัฒนธรรม และวิถีชีวิต ของพื้นที่ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางแห่งการค้านานาชาติในอดีต ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นใหม่เป็นครั้งแรก โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักได้แก่ โซนสายน้ำแห่งการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ โซนจากผืนน้ำสู่ผืนดินแห่งความเจริญรุ่งเรือง และโซนมรดกทางวัฒธรรมที่ถ่ายทอดคุณค่าสู่เอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วน Art Festival คือมิติใหม่ของการดื่มด่ำกับศิลปะโดยการสอดแทรกเรื่องราวทางศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิต ลงไปในผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ในพื้นที่ต่างๆ ของโครงการ ทั้งภาพวาด สตรีทอาร์ท ประติมากรรม และอื่น ๆ ซึ่งนอกจะเป็นการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ทางศิลปะวัฒนธรรมยังเป็น Photo Spot ที่ดึงดูดให้คนเข้ามาถ่ายภาพและเช็คอินอีกด้วย
ปรากฏการณ์ที่สาม New Mega Riverside F&B Destination ศูนย์กลางแห่งการกินดื่มที่ทุกคนต้องนึกถึงและอยากมา ด้วยตัวเลือกอันหลากหลายของกว่า 40 ภัตตาคาร ร้านอาหารนานาชาติ ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาเลียน คาเฟ่ บาร์แอนด์บิสโทร บาร์บีคิว เบียร์การ์เดนท์ พร้อมการแสดงดนตรีสด เสริมทัพด้วยการจับมือกับ “ครัวคุณต๋อย”แพลตฟอร์มของสื่อด้านอาหารและเครือข่ายร้านอาหารชั้นนำที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของไทยร่วมสร้างดินแดนแห่งความอิ่มอร่อยครบรสที่คัดสรรโดยคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ในการรวมร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่มที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและความอร่อยของรสชาตินานาชนิดจากร้านเด่นดังทั่วประเทศ ไว้ในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อเป็นสีสันใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ด้านการกิน ดื่ม ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ครบเครื่อง ครบรส ครบทุกสไตล์และความชื่นชอบในที่เดียว
เตรียมพบกับการจุดประกายเฉลิมฉลองสีสันแห่งความสนุกสนาน การสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และการพักผ่อนหย่อนใจที่น่าประทับใจและชวนจดจำยิ่งกว่าเดิมกับ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โฉมใหม่ ที่พร้อมให้คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสกับจุดหมายปลายทางแห่งคุณค่าของเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ทั้งทางด้านอารยธรรม การค้า ศิลปวัฒนธรรม และพรั่งพร้อมด้วยองค์ประกอบของความแปลกใหม่ล้ำสมัย ชวนตื่นตาตื่นใจ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563 นี้
Tag:เอเชียทีค